แนะนำประเภทของเต็นท์ที่เหมาะกับนักท่องเที่ยวสายเดินป่า
สายนักท่องเที่ยวในปัจจุบันเน้นการท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติมากขึ้นกว่าในช่วงก่อนมาก โดยเฉพิย่างยิ่งการเที่ยวที่เสพติดบรรยากาศและธรรมชาติอย่างใกล้ชิด หลบความวุ่นวายในเมือง การเดินป่าพักค้างอ้างแรมในป่าหรือสถานที่ธรรมชาติอื่นๆ จึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของนักท่องเที่ยวที่กำลังนิยม อุปกรณ์หนึ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับผู้ที่ต้องการใกล้ชิดธรรมชาติในลักษณะนี้ก็คือ “เต็นท์” หรือที่พัก วันนี้จะขอแนะนำเต็นท์รูปแบบต่างๆ ที่เหมาะสมกับพื้นที่การใช้งานที่ต่างกันไป เพื่อให้นักท่องเที่ยวสามารถเลือกใช้ได้อย่างถูกวิธีแลชะเหมาะสมกับพื้นที่ในการพักผ่อน
ความสำคัญของเต็นท์สำหรับนักท่องเที่ยวสายธรรมชาติ
เต็นท์นอกจากจะใช้เป็นที่พักผ่อนในยามค่ำคืนหลังจากการเดินทางที่เหน็ดเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว เต็นท์ยังเป็นเครื่องป้องกันภัยได้อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นแดด ลม ฝน เต็นท์ที่ดีต้องมีคุณสมบัติที่สามารถแข็งแรง ทนทานต่อการใช้งานในทุกรูปแบบและมีความปลอดภัยในการใช้งานได้ดีระดับหนึ่ง การมองหาเต็นท์สักหลังจึงต้องพิจารณาพื้นที่ที่จะทำการกางเต็นท์พื้นการตั้งแคมป์และพักผ่อนด้วยว่าควรเลือกหาประเภทของเต็นท์แบบใด
แนะนำประเภทของเต็นท์ที่นิยมใช้งานในพื้นที่ต่างๆ
ประเภทของเต็นท์ที่ใช้งานและมีจำหน่ายอยู่ทั่วไปนั้น ปัจจุบันสามารถแยกประเภทได้ 9 ประเภท รูปแบบการใช้งานโดยรวมจะเหมือนกันคือมีความแข็งแรง ทนทานแต่มีความแตกต่างกันในส่วนของพื้นการใช้งาน ไม่ใช่ซื้อเต็นท์หนึ่งหลังแล้วจะสามารถนำไปใช้งานที่ได้ทุกที่ ประเภทต่างๆ ของเต็นท์ประกอบไปด้วย
- เต็นท์โดม ถือว่าเป็นเต็นท์ประเภทมาตรฐานที่นักท่องเที่ยวสายนี้ควรมีไว้เพราะกางง่าย น้ำหนักเบา ราคาไม่แพง สามารถเลือกขนาดที่พักได้ตั้งแต่ 1 -3 คน อุปกรณ์เสริมที่สามารถหาซื้อเพิ่มเพติมได้คือหลังคากันน้ำค้างและผ้าปูพื้นรองนอน พื้นที่กางเต้นเป็นสี่เหลี่ยมและใช้สมอบกช่วยในการตรึงเต็นท์ มีพื้นที่ส่วนของการใช้สอยอื่นๆ เพิ่มเติมเล็กน้อย สามารถใช้งานได้ทุกพื้นที่
- เต็นท์ป๊อปอัป ถือว่าเป็นเต็นท์ที่กางง่ายที่สุดน้ำหนักเบา ราคาปานกลางเพราะมีระบบการกางเต็นท์และพับเก็บพิเศษเหมือนที่กันแดดหน้ารถยนต์ สามารถเลือกขนาดที่พักได้ตั้งแต่ 1 -6 คน พื้นที่กางเต้นเป็นสี่เหลี่ยมแต่ความแข็งแรงมีน้อย ทำให้ไม่เหมาะกับการพักค้างเป็นเวลานานๆ
- เต็นท์สูบลม ถือว่าเป็นเต็นท์รูปแบบใหม่ที่กางออกและเก็บสามารถทำได้โดยง่ายเพียงอาศัยการสูบลมและปล่อยลมออกจากตัวเต็นท์เท่านั้น มีน้ำหนักมาก ราคาเกือบหมื่นบาทต่อหลัง สามารถพักได้ 1 -2 คน ข้อเสียคือความแข็งแรงน้อยกว่าเต็นท์ประเภทแรกและต้องพกอุปกรณ์เสริมคือที่สูบลมไปด้วยนั่นเอง
- เต็นท์อุโมงค์ ถือว่าเป็นเต็นท์ที่มีขนาดใหญ่แต่การใช้งานค่อนข้างยากต้องใช้ 2-3 คนช่วยกันกางเต็นท์พักได้ตั้งแต่ 2-4 คน มีพื้นที่ใช้สอยมากแต่ไม่ทนกับสภาพอากาศที่รุนแรง เช่น ลมแรง ฝนตกหนัก เหมาะที่จะใช้งานในพื้นที่ชิวๆ มากกว่าการสมบุกสมบัน ราคาไม่เกิน 3,000 บาทต่อหลัง
- เต็นท์เคบิน ถือว่าเป็นเต็นท์ประเภทมาตรฐานขนาดใหญ่แข็งแรง ทนทานทุกสภาพอากาศเหมาะกับการเข้าป่าไปเที่ยวแบบครอบครัว สามารถพักได้สูงสุดถึง 12 คน ทนแดดทนฝนได้ดี สามารถเลือกซื้อแบบที่ภายในเต็นท์ซอยย่อยออกเป็นห้องพักเล็กๆ ได้อีกด้วย ส่วนเรื่องน้ำหนักไม่ต้องพูดถึง นักมากเหมาะกับการขับรถเข้าป่าไปเที่ยวที่สุด ราคาเริ่มต้นของเต็นท์ประเภทนี้อยู่ที่ 10,000 บารทขึ้นไป
ทั้งหมดที่กล่าวมานี้เป็นเต็นท์ที่น่าสนใจในรูปแบบและขนาดต่างๆ การใช้งานต้องขึ้นอยู่กับนักท่องเที่ยวว่าต้องการความสะดวกสบายและเข้าถึงพื้นที่แบบใดเป็นสำคัญ การเลือกใช้เต็นท์ผิดประเภทในพื้นที่ที่ไม่สอดคล้องกันอาจส่งผลในความเพลิดเพลินในการท่องเที่ยวกลายเป็นวิบากกรรมดีๆ ได้อย่างไม่รู้ตัวเลยทีเดียว
More Stories
ระดับความยากของการเดินป่า ระดับไหนเหมาะสมกับคุณที่สุด
เตาแก๊ส Camping
สูตรเมนูอาหารทำกินง่ายๆ เมื่อไปตั้งแคมป์