กันยายน 21, 2024

camper-checkin

ไลฟ์สไตล์ แคมป์ปิ้ง

วิธีเลือกเต๊นท์สนาม

วิธีเลือกเต๊นท์สนาม

วิธีเลือกเต๊นท์สนาม เลือกอย่างไรให้คุ้มราคาคุ้มการใช้งาน

สิ่งหนึ่งที่มีความสำคัญสำหรับนักท่องเที่ยวหรือนักผจญภัยสายเดินป่าก็คือเรื่องของ “เต็นท์สนาม” เต็นท์ที่ดีควรเลือกหาเลือกซื้อภายใต้คุณสมบัติอย่างไร วันนี้เรามีคำแนะนำเกี่ยวกับการเลือกซื้อเต็นท์ที่ดี มีคุณภาพ แข็งแรงคงทน และสามารถใช้ได้กับทุกสภาพพื้นที่และทุกสภาพภูมิอากาศ ติดตามกันได้เลย

วิธีเลือกเต๊นท์สนาม

การเลือกซื้อเต็นท์สนามที่ดีอย่างดูแค่ความสวยงาม

หลักเบื้องต้นสำหรับนักเดินทางทั้งหน้าเก่าและหน้าใหม่ก็คือ การเลือกซื้อเต็นท์สนามที่ดีอย่างมองแค่ความสวยงาม และราคาที่สูง การเลือกแพงความสวยงามแม้จะได้คุณค่าทางจิตใจและใช้งานอาจไม่มีประสิทธิภาพก็ได้ ในขณะเดียวกันเต็นท์สนามราคาสูงๆ อาจมีคุณภาพไม่มีเท่าเต็นท์สนามที่มีราคาถูกหรือราคากลางๆ ก็ได้เช่นกัน ดังนั้นการเลือกเต็นท์สนามที่ดีต้องพิจารณาองค์ประกอบหลายๆ ประกอบพร้อมๆ กัน

วิธีการเลือกเต็นท์สนามที่ถูกต้อง

หลักในการพิจารณาเลือกซื้อหาเต็นท์สนามที่ถูกต้องให้เริ่มลำดับในการพิจารณาดังต่อไปนี้

  • ผนังเต๊นท์ เป็นลักษณ์ที่สำคัญมากเพราะจะเกี่ยวข้องกับการถ่ายเทอากาศภายในเต็นท์ ระบบความชื้น และความแน่นของอากาศในเต็นท์ แนะนำให้ใช้ผนังเต็นท์แบบ 2 ชั้น ซึ่งจะช่วยลดความกังวลในเรื่องของอากาศ ความชื้นและการถ่ายเทมวลอากาศได้เป็นอย่างดี ซึ่งปกติแล้วผนังเต็นท์ด้านนอกจากใช้ฟลายชีทเพื่อป้องกันน้ำ ส่วนพื้นชั้นในจะใช้เป็นตาข่ายถี่ๆ หรือมุ้งช่วยในการระบายอากาศ
  • ส่วนเต็นท์ที่มีผนังชั้นเดียวจะมีคุณสมบัติโดดเด่นในเรื่องของน้ำหนักเบา ติดตั้งง่าย ขนาดเล็กเหมาะกับการใช้งานเกี่ยวกับการปีนเขาที่ต้องการลดน้ำหนักสัมภาระและใช้ได้ดีกับฤดูหนาวในพื้นที่แห้ง
  • การติดตั้ง เลือกจากการใช้หรือไม่ใช้สมอบกมีส่วนสำคัญกับความสะดวกในพื้นที่กางเต็นท์รวมถึงความแข็งแรงมั่นคงของเต็นท์ด้วย ปัจจุบันมีรูปแบบการกางเต็นท์สนามให้เลือก 2 แบบคือแบบที่สามารถกางและตั้งได้เองโดยไม่ต้องตรึงด้วยสมอบกอย่างเต๊นท์ป๊อบอัพ (Pop-up Tent) ที่สามารถดีดตัวเป็นทรงได้เอง หรือเป็นระบบไฮดรอลิกช่วยกางโดยไม่ต้องต่อเสาแต่ในบางรุ่นก็มักจะมีเชือกสำหรับยึดเต๊นท์กับเสาหรือต้นไม้เพื่อเพิ่มความมั่นคงมาให้ด้วย อีกแบบหนึ่งคือแบบใช้สมอบก เพื่อความมั่นคงแข็งแรงในการกางเต๊นท์ ซึ่งเหมาะสำหรับการใช้งานบนพื้นที่ลาดชันหรือในช่วงที่อากาศแปรปรวน มีลมพัดแรง เป็นการป้องกันแรงลมฝนและลดความเสี่ยงเต๊นท์ปลิวได้ ดังนั้นผู้ใช้งานจะใช้แบบใดควรพิจารณาก่อนว่าสถานที่ที่จะเดินทางไปนั้นเหมาะสมกับเต็นท์แบบไหน

วิธีเลือกเต๊นท์สนาม

  • ความหนาผ้าเป็นหลัก ผ้าเต็นท์ที่หนาเกินไปหนักเกินไปก็ไม่ได้เช่นเดียวกับผ้าเต็นท์ที่บางเกินไปก็ไม่ดีเช่นกัน ผ้าเต็นท์ที่ทำจากไนลอน (Nylon) และโพลีเอสเตอร์ (Polyester) เป็นผ้าที่ได้รับความนิยมในการทำเต๊นท์มากที่สุดเพราะบางมีน้ำหนักเบาผสมด้วยสารกันไฟ P – Halogen เพื่อทำให้ไม่เกิดการติดไฟหากต้องมีการประกอบอาหารภายในเต๊นท์ แต่มีข้อเสียคือความทนทานและความยืดหยุ่นจะลดลง การตรวจสอบถึงคุณภาพของผ้าเต็นท์ให้ดูจากตัวอักษร D (Denier) ถ้าตัวเลขที่ตามหลังมากก็แสดงว่าผ้าเต็นท์มีความทนทานต่อการฉีกขาดสูง ส่วนตัวอักษร T (Thread per Inch) จะหมายถึงความถี่ของเนื้อผ้า ยิ่งตัวเลขมากแสดงว่าทอตัวชิดกัน ปกติที่นิยมเลือกใช้คือ 20D – 30D หรือ 190T – 210T
  • เลือกตามฤดูกาล ตามปกติแล้วเต็นท์แต่ละหลังจะมีการกำหนดเครื่องหมายไว้เพื่อให้ทราบว่าสามารถใช้งานได้ในสภาพภูมิอากาศแบบใด โดยแบ่งออกเป็นเต๊นท์ 3 ฤดู, เต๊นท์ 3 ฤดู+ และเต๊นท์ 4 ฤดูซึ่งสำหรับประเทศไทยแล้วนิยมใช้เต็นท์ 3 ฤดูเพราะทนต่อการฉีกขาด แข็งแรง น้ำหนักเบา ส่วนเต็นท์ 3ฤดู+ จะเหมาะกับพื้นที่ที่มีอากาศแปรปรวนมากๆ ส่วนเต็นท์ 4ฤดูเรียกอีกอย่างหนึ่งว่าเต็นท์ปีนเขา ซึ่งเป็นพื้นที่มีความรุนแรงมากทางสภาพอากาศอย่างบนเทือกเขาสูง เช่น หิมะตกต่อเนื่องยาวนาน

วิธีเลือกเต๊นท์สนาม

ทั้งหมดเป็นการเลือกหาเต็นท์ที่เหมาะสมกับการใช้งาน หลักเกณฑ์เหล่านี้สามารถนำไปใช้พิจารณาก่อนการตัดสินใจเลือกซื้อเต็นท์ดีๆ สักหนึ่งหลังได้แบบสบายๆ ลองนำไปใช้กันดูรับรองไม่ผิดหวัง ไม่เสียดายเงินอย่างแน่นอน

วิธีเลือกเต๊นท์สนาม

#วิธีเลือกเต๊นท์สนาม