กุมภาพันธ์ 14, 2025

camper-checkin

ไลฟ์สไตล์ แคมป์ปิ้ง

ญี่ปุ่นเจ้าแห่งการออกทริปแคมป์คาร์

ญี่ปุ่นเจ้าแห่งการออกทริปแคมป์คาร์ ของเอเชีย

ญี่ปุ่นเจ้าแห่งการออกทริปแคมป์คาร์ ของเอเชีย

ญี่ปุ่น ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งประเทศที่มีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติมากมายและผู้คนให้ความนิยมเป็นอย่างมากสำหรับการท่องเที่ยวในรูปแบบ Camping  ทั้งนี้นอกเหนือจากการท่องเที่ยวค้างแรมด้วยการนอนเต็นท์ธรรมดาแล้ว ประเทศญี่ปุ่นเองยังคงมีอีก 1 รูปแบบการท่องเที่ยวแบบพักแรม ซึ่งเริ่มเป็นที่แพร่หลายไปทั่วโลกและได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ ในยุคปัจจุบัน โดยรูปแบบการท่องเที่ยวดังกล่าวนั้นก็คือ การเดินทางด้วยรถบ้านหรือแคมป์คาร์นั่นเอง ทั้งนี้ด้วยเทรนความนิยมการท่องเที่ยวด้วยรถบ้านหรือ Camp Car จากผู้คนทั่วโลกและภายในประเทศญี่ปุ่นนั้น มีมากอยู่ในระดับสูง จนได้รับสมญานามว่า ญี่ปุ่น เจ้าแห่งการออกทริปแบบแคมป์คาร์ของเอเชีย เลยทีเดียว

ทั้งนี้สำหรับใครที่สนใจและความฝันเอาไว้ว่าจะได้เดินทางไป Camping ในประเทศญี่ปุ่นสักครั้ง นั้น ในวันนี้ เราจะมาแนะนำถึงแนวทางต่างๆ เกี่ยวกับการออกทริปแคมป์ปิ้ง และแคมป์คาร์ ภายในประเทศญี่ปุ่นกัน

ศึกษาช่วงเวลาเปิดให้บริการของแต่ละสถานที่ ก่อนเดินทางให้ดี

ถึงแม้ประเทศญี่ปุ่นมีพื้นที่สำหรับการตั้งแคมป์ กระจายอยู่มากมายหลายแห่งทั่วประเทศ แต่อย่างไรก็ตามก่อนการเดินทางจไปเยือนในแต่ละสถานที่ ผู้เดินทางจะต้องศึกษาช่วงเวลากานเปิดปิดให้ดี ทั้งนี้เพราะ จุดแคมป์ปิ้งบางแห่งอาจจะไม่เปิด ให้บริการตลอดทั้งปีนั่นเอง

รูปแบบการแค้มป์ปิ้งภายในประเทศญี่ปุ่น

ปัจจุบันนั้นประเทศญี่ปุ่นมีรูปแบบการแคมปิ้งอย่างหลากหลาย โดยแต่ละสถานที่อาจจะมีรูปแบบและเงื่อนไขการเข้าพักที่แตกต่างกันออกไป อย่างไรก็ตามส่วนใหญ่ทุกพื้นมักอนุญาตให้นักท่องเที่ยวสามารถเลือกได้ว่าเอง จะพักแรมด้วยการกางเต็นท์แบบธรรมดาหรือจะใช้รถบ้านไปจอดตามจุดที่กำหนดเอาไว้ให้นั่นเอง

ค่าใช้จ่ายที่ต้องเตรียมไปสำหรับการแค้มป์ปิ้งในประเทศญี่ปุ่น

ในส่วนของค่าใช้จ่ายนั้น แต่ละพื้นที่อาจจะมีการกำหนดค่าธรรมเนียม ที่ไม่เหมือนกัน แต่โดยเฉลี่ยแล้วการค้างแรม 1 คืนภาย ในสถานบริการ Campingของประเทศญี่ปุ่นและ จะมีค่าใช้จ่ายอยู่ที่ประมาณ 1,000 ถึง 5,000 เยน

อย่างไรก็ตามการจะท่องเที่ยวแบบเต็มๆในญี่ปุ่นได้นั้น ผู้เดินทางจำเป็นจะต้องสอบใบขับขี่สากลประเภท D ให้ได้เสียก่อน โดยผู้ที่สนใจสามารถติดต่อขอใบขับขี่ดังกล่าวได้ที่สำนักงานขนส่งตามแต่ละพื้นที่ภายในประเทศไทยได้เลย